7 รถกระบะ 4 ประตูมือสองรุ่นยอดนิยม แข็งแกร่ง ดุดัน ราคาไม่แรง!

05 สิงหาคม 2567

รถกระบะ 4 ประตูมือสองเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนต้องการ ด้วยความสมบุกสมบันที่เป็นจุดเด่นของกระบะ แถมยังเพิ่มขนาดห้องโดยสารและให้มีประตู 4 บ้าน เรียกได้ว่าเป็นรถอีกประเภทที่ลงตัวสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบรอบด้าน วันนี้ Gurumalist เราจะพาคุณไปรู้จักกับรถกระบะ 4 ประตูมือสอง 7 รุ่นที่น่าสนใจ พร้อมสเปคและฟีเจอร์เด่น ๆ มาดูกันว่าราคารถกระบะ 4 ประตูมือสองรุ่นไหนคุ้มค่าน่าลงทุน

 

รถกระบะ 4 ประตูมือสองดีอย่างไร ทำไมถึงน่าสนใจ

รถกระบะ 4 ประตูได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายทั้งในเมืองและชนบท เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมาก ผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง รถกระบะ 4 ประตูมีข้อได้เปรียบกว่ารถกระบะ 2 ประตูในหลายด้าน ดังนี้

  • พื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น
  • ความสะดวกสบายในการเข้า-ออกรถ โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • ความปลอดภัยสูงกว่า เนื่องจากมีโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงมากขึ้น
  • ความอเนกประสงค์สูง สามารถใช้งานได้ทั้งเพื่อครอบครัวและการทำงาน
  • มูลค่าการขายต่อสูงกว่ารถกระบะ 2 ประตู

 

 

รวมรถกระบะ 4 ประตูมือสองที่น่าสนใจ

เมื่อพูดถึงรถกระบะ 4 ประตูมือสอง มีหลายรุ่นที่น่าสนใจและได้รับความนิยม ซึ่งแต่ละรุ่นมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน โดยรถกระบะ 4 ประตูมือสองที่แนะนำ ล้วนเป็นยี่ห้อเจ้าตลาดและเป็นรุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

 

1. Toyota Hilux Revo Prerunner

Toyota Hilux Revo Prerunner เป็นรถกระบะ 4 ประตูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดดเด่นด้วยความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และซ่อมบำรุงง่ายไม่จุกจิก โดยรุ่นปี 2014 เป็นต้นมามีการปรับแต่งโฉม Minorchange และอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีระบบช่วงล่างที่เหมาะแก่การขับขี่ในชีวิตประจำวัน ราคามือสองเริ่มต้นที่ 300,000 - 900,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต

สเปคเบื้องต้นของ Toyota Hilux Revo Prerunner

  • เครื่องยนต์มี 2 แบบให้เลือก คือ 2.4 ลิตร ดีเซล และ 2.8 ลิตร ดีเซล 
  • ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (ในรุ่นปี 2020 ขึ้นไป) รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Entry และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (HAC)

 

 

2. Isuzu D-Max

Isuzu D-Max Hi-Lander เป็นรถกระบะ 4 ประตูอีกรุ่นที่คนไทยนิยมมาก  ๆ มีการทำตลาดมาอย่างยาวนาน รุ่นที่น่าสนใจจะอยู่ในช่วงปี 2014 จนถึงปัจจุบัน มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัย และในปี 2019 Isuzu D-Max ก็ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยลดขนาดเครื่องยนต์เป็น 1.9 ลิตร ดีเซล แต่ให้พละกำลังและแรงบิดที่ดี จึงทำให้คนส่วนใหญ่ต่างมองหา Isuzu D-Max มาใช้งาน ราคามือสองเริ่มต้นที่ 300,000 - 900,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต

สเปคเบื้องต้นของ Isuzu D-Max Hi-Lander

  • เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบ 1.9 ลิตร ดีเซล และ 3.0 ลิตร ดีเซล
  • ระบบความปลอดภัย Isuzu Safety Plus (ในรุ่นปี 2019 ขึ้นไป) รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Entry และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)

 

 

3. Ford Ranger Double Cab Hi-Rider

Ford Ranger Double Cab Hi-Rider เป็นรถกระบะ 4 ประตูที่โดดเด่นด้านสมรรถนะและเทคโนโลยี และทำตลาดในไทยมาอย่างยาวนาน โดยรุ่นที่น่าสนใจจะเป็นรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไป เพราะเป็นโฉมที่มีความดุดันและสมบุกสมบัน อีกทั้งยังมีเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังดีมากกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ราคามือสองเริ่มต้นที่ 300,000 - 1,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต

สเปคเบื้องต้นของ Ford Ranger Double Cab Hi-Rider

  • เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบคือ 2.2 ลิตร ดีเซล และ 2.0 ลิตร ดีเซล Bi-Turbo
  • ระบบความปลอดภัย Ford Co-Pilot360 (ในรุ่นปี 2019 ขึ้นไป) รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8-10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Active Park Assist)

 

4. Mazda BT-50 Double Cab

Mazda BT-50 Double Cab เป็นรถกระบะ 4 ประตูที่หน้าตาโดดเด่นตามสไตล์ของ Mazda เป็นอีกรุ่นที่คนไทยให้การต้อนรับอย่างดีเสมอมา โดยรุ่นที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2020 เป็นโมเดลล่าสุดที่พัฒนาร่วมกับ Isuzu ทำให้มีความทันสมัยและน่าใช้งานมากขึ้น แถมยังใช้เครื่องยนต์ 1.9 ลิตรเหมือนกับ Isuzu D-Max อีกด้วย ราคามือสองเริ่มต้นที่ 300,000 - 600,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต 

สเปคเบื้องต้นของ Mazda BT-50 Double Cab

  • เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบคือ 1.9 ลิตร ดีเซล และ 3.0 ลิตร ดีเซล
  • ระบบความปลอดภัย i-Activsense รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Advanced Keyless Entry และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA)


5. Mitsubishi Triton Athlete Double Cab

Mitsubishi Triton Athlete Double Cab รถกระบะ 4 ประตูอีกรุ่นที่คนไทยนิยมเสื่อมคลาย เพราะในแต่ละโฉมมีการปรับหน้าตา ดีไซน์ สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ไปจนถึงเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี ออฟโรดก็ได้ขับประจำก็ดี รุ่นที่วางจำหน่ายในช่วงปี 2015 เป็นต้นมาถือว่าน่าใช้งานเป็นอย่างมาก ราคามือสองเริ่มต้นที่ 290,000 - 700,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต 

สเปคเบื้องต้นของ Mitsubishi Triton Athlete Double Cab

  • เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ดีเซล MIVEC
  • ระบบความปลอดภัย ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Operation System และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II

 

6. Nissan Navara Double Cab

Nissan Navara Double Cab รถกระบะ 4 ประตูที่มีระบบช่วงล่างแตกต่างไปจากรถกระบะรุ่นอื่น ๆ โดยใช่ระบบช่วงล่างแบบมัลติลิงค์ ทำให้มีความสะดวกสบายทั้งในแง่ของการขับขี่และผู้โดยสาร โดยรุ่นที่น่าสนใจจะเป็นช่วงปี 2015 เป็นต้นไป มีการปรับโฉมให้ดุดันทันสมัย พร้อมออปชันต่าง ๆ ที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ราคามือสองเริ่มต้นที่ 290,000 - 750,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต 

สเปคเบื้องต้นของ Nissan Navara Double Cab

  • เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ดีเซล Twin Turbo
  • ระบบความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ระบบช่วงล่างแบบมัลติลิงค์ ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่


7. Chevrolet Colorado Crew Cab Hi Country

ปิดท้ายด้วย Chevrolet Colorado Crew Cab Hi Country รถกระบะ 4 ประตูที่เคยได้รับความนิยมอยู่พักใหญ่ เพราะเป็นรถที่มีความทนทาน หน้าตาดีไซน์ก็ไม่เป็นรองใคร แถมยังมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมไม่ค่อยจุกจิก จนมาถึงปี 2021 CHevrolet ได้ยุติการทำตลาดในประเทศไทย โดยรุ่นที่น่าสนใจจะเป็นรุ่นที่ผลิตในระหว่างปี 2017-2021 สามารถหาอะไหล่เพื่อซ่อมบำรุงได้ไม่ยาก ราคามือสองเริ่มต้นที่ 350,000 - 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพโดยรวมและปีที่ผลิต  

สเปคเบื้องต้นของ Chevrolet Colorado Crew Cab Hi Country

  • เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบคือ 2.5 ลิตร ดีเซล Duramax และ 2.8 ลิตร ดีเซล Duramax
  • ระบบความปลอดภัย Chevrolet Active Safety รวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Entry และปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
  • ไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)

 

สรุปเกี่ยวกับ 7 รถกระบะ 4 ประตูมือสองรุ่นยอดนิยม

เป็นอย่างไรกันบ้างกับรถกระบะ 4 ประตูมือสองทั้ง 7 รุ่นที่ได้แนะนำไป ในแต่ละรุ่นล้วนมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ทั้งในแง่ของความทนทาน ดีไซน์สวยงาม สมรรถนะและเทคโนโลยี และความประหยัดน้ำมัน เมื่อพิจารณาราคารถกระบะ 4 ประตูมือสอง ก็จะพบว่ามีความคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับรถใหม่ โดยเฉพาะรุ่นที่มีอายุประมาณ 3-5 ปี ซึ่งยังคงมีสภาพดีและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ราคาถูกลงหลายแสน อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อรถมือสองควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ประวัติการใช้งาน การบำรุงรักษา และสภาพโดยรวมของรถ สำหรับใครที่สนใจรถกระบะ 4 ประตูมือสองทั้ง 7 รุ่น ที่ gurumalist มาพร้อมตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ เข้ามาค้นหารถยนต์มือสองกับ gurumalist ทางเว็บไซต์ได้เลย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แอดไลน์ gurumalist ได้เลย