ในปัจจุบัน รถยนต์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถมือสอง การทำประกันรถยนต์ถือเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาควบคู่ไปด้วย เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถมือสอง ที่อาจมีความเสี่ยงมากกว่ารถใหม่ ดังนั้น การเลือกประกันรถมือสองที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ และในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการทำประกันรถมือสอง และการเลือกความคุ้มครองให้เหมาะสมกับความต้องการของเรากัน
ออกรถมือสองต้องทำประกันมั้ย
แม้ว่ารถมือสองจะผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่จำเป็นต้องทำประกันรถยนต์ เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ การมีประกันรถมือสองจะช่วยคุ้มครองและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเรา ทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือค่าซ่อมบำรุงรถยนต์ อย่างไรก็ดี ด้วยทางเลือกที่หลากหลายของประกันรถมือสอง การเลือกความคุ้มครองให้เหมาะกับเราจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา
เลือกประกันรถมือสองอย่างให้เหมาะกับเรา
ในการเลือกประกันรถมือสอง นั้น มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา ทั้งอายุของรถ ไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ และความชำนาญของผู้ขับ มาดูกันว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเลือกประกันอย่างไรบ้าง
รถอายุไม่เกิน 5 ปี
สำหรับรถมือสองที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี แนะนำให้เลือกประกันรถมือสองชั้น 1 หรือชั้น 2+ เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุม โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ครอบคลุมทั้งความเสียหายต่อตัวรถ และบุคคลภายนอก ส่วนประกันชั้น 2+ ก็เหมาะสำหรับรถมือสองใหม่ ๆ ที่ต้องการความคุ้มครองในระดับที่ดี
รถอายุ 5-7 ปี
รถมือสองที่มีอายุระหว่าง 5-7 ปี เป็นช่วงอายุที่ยังสามารถเลือกทำประกันรถมือสองได้เกือบทุกชั้น ตั้งแต่ชั้น 1, 2+, 3+ และ 3 ทั่วไป โดยปัจจัยที่ควรพิจารณาคือ ความคุ้มค่าของเบี้ยประกัน เทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ และไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ของผู้ใช้รถ ว่ามีความถี่ในการขับขี่มากน้อยแค่ไหนไหน
รถอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป
สำหรับรถมือสองอายุเกิน 7 ปี ประกันรถมือสองที่แนะนำคือ ชั้น 2+, 3+ และ 3 ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความชำนาญในการขับขี่ และไลฟ์สไตล์การใช้รถ โดยรวมแล้ว รถอายุมากกว่า 7 ปีควรเลือกความคุ้มครองที่จำเป็นต่อการใช้งาน และให้ความสำคัญกับเบี้ยประกันที่คุ้มค่า
ความคุ้มครองของประกันรถยนต์แต่ละชั้น
หลังจากทราบถึงปัจจัยในการเลือกประกันสำหรับรถมือสองแล้ว มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคุ้มครองของประกันรถมือสองแต่ละชั้นกัน เพื่อการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด คุ้มครองทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รถคันเอาประกัน และบุคคลภายนอก อีกทั้งยังมีบริการเสริม เช่น รถลากจูง ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับรถมูลค่าสูง และมือใหม่หัดขับ แต่มีเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+
ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 1 แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายจากการชนในบางกรณี เช่น ชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า โดยเบี้ยประกันจะถูกกว่าชั้น 1 ราว 20-25% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในระดับสูง แต่ภายใต้งบประมาณที่จำกัด
ประกันรถยนต์ชั้น 3+
ประกันชั้น 3+ คุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ผู้โดยสาร และค่ารักษาพยาบาล โดยไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถคันเอาประกัน ทำให้เบี้ยประกันต่ำกว่าชั้น 1 และ 2+ มาก เหมาะสำหรับผู้ใช้รถที่มีงบประมาณจำกัด หรือรถอายุมาก
ประกันรถยนต์ชั้น 3
ประกันชั้น 3 หรือประกันภาคบังคับ เป็นความคุ้มครองขั้นต่ำสุดที่รถทุกคันต้องทำ คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือเสียชีวิต แต่ไม่รวมค่าเสียหายต่อทรัพย์สินใด ๆ เหมาะสำหรับรถมือสองสภาพเก่ามาก หรือมีมูลค่าต่ำ
การทำประกันรถมือสองนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจและอุ่นใจในการขับขี่ การเลือกชั้นประกันที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากอายุและมูลค่าของรถ รวมถึงไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเอง จะช่วยให้ได้ความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการในราคาที่คุ้มค่า หากใครกำลังสนใจออกรถมือสอง และมองหาบริการประกันรถมือสองที่ได้มาตรฐาน ลองติดต่อสอบถามจาก gurumalist ได้ทันที ชมผ่านเว็บไซต์ หรือแอดไลน์ gurumalist เราพร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่แน่นอน