1. เทียบเลขไมล์กับสภาพรถ ปีรถ
โดยเฉลี่ยแล้ว รถอายุ 1 ปี ควรจะมีเลขไมล์อยู่ที่ประมาณ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร ในกรณีที่มีการใช้งานปกติ
ดังนั้น หากรถมีเลขไมล์ไม่มากก็ควรมีสภาพที่ดูใหม่ ไม่เก่าหรือสึกหรอมากกว่าระยะเลขไมล์ที่แสดงไว้จนเกินไป
2. เทียบปีที่จดทะเบียนกับเล่มทะเบียนรถ
ผู้ซื้อต้องตรวจสอบ วันเดือนปีที่จดทะเบียนควบคู่กับการสังเกตส่วนประกอบของรถว่า ตรงกันหรือไม่ และสัมพันธ์กับระยะวิ่งแค่ไหน หากเป็นรถที่จดทะเบียนมานานแล้ว แต่มีเลขไมล์น้อย ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นรถกรอไมล์
3. เช็กประวัติการซ่อมแซมบำรุงรักษา
ตรวจสอบข้อมูลการเช็กระยะและประเมินเลขไมล์ตามบันทึกการซ่อมบำรุงในเอกสารสมุดคู่มือการเข้าศูนย์ฯ เพราะรถยนต์ทุกคันต้องได้รับการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ทุก 10,000 กม. และจะต้องมีการบันทึกข้อมูลตลอด
4. แผงหน้าปัดต้องดูเรียบร้อย
รถหน้าปัดไมล์แบบอนาล็อก : ให้สังเกตที่บริเวณมาตรวัดของรถ ไม่ควรมีร่องรอยการถูกแกะ หรือซ่อมแซม
รถหน้าปัดไมล์แบบดิจิตอล : ต้องนำรถไปเข้าศูนย์เพื่ออ่านค่าเลขไมล์ให้ชัดเจนที่สุด
.
💚ก่อนซื้อควรเช็กเลขไมล์ของรถมือสองให้ชัดเจน เพื่อป้องกันกลโกงของผู้ขาย
แต่!! หากดูไม่เป็น กลัวไม่ชัวร์ ให้มาซื้อรถมือสองกับ Gurumalist👍✨
Gurumalist การันตีคุณภาพ ✅จากผู้ขายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน พร้อมให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อรถยนต์
สนใจดูรายละเอียด หรือ เลือกซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ คลิก https://bit.ly/4cWSwrt