แนะวิธีคิดดอกเบี้ยรถยนต์ พร้อมสิ่งที่ควรรู้ก่อนออกคันใหม่

07 พฤษภาคม 2568

แนะวิธีคิดดอกเบี้ยรถยนต์

การผ่อนรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดงหรือรถมือสองนับเป็นสิ่งที่ต้องคิดคำนวณมาอย่างรอบคอบ เพราะเราจะต้องชำระค่างวดในระยะยาวตามสัญญา การตัดสินใจซื้อรถจึงต้องประเมินศักยภาพในการชำระของผู้ซื้อด้วย คุณจำเป็นต้องเข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยรถและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนตัดสินใจ วันนี้ gurumalist จะมาอธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้เข้าใจก่อนออกรถคันใหม่ ติดตามได้ในบทความนี้

รายการสำคัญที่ต้องรู้ก่อนคิดค่างวดรถยนต์

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ คุณควรทำความเข้าใจกับรายละเอียดสำคัญที่มีผลต่อยอดผ่อนชำระรถยนต์ของคุณ ซึ่งแต่ละรายการมีผลโดยตรงต่อภาระทางการเงินที่คุณต้องรับผิดชอบในระยะยาว การเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสมและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

ราคา 

ราคารถยนต์ เป็นจุดเริ่มต้นของการคำนวณทั้งหมด ราคาจะแตกต่างกันตามรุ่น, ยี่ห้อ, สเปค และโปรโมชั่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบระหว่างรถป้ายแดงกับรถมือสอง ควรพิจารณาว่า รถมือสองดีไหม สำหรับงบประมาณของคุณ เพราะราคาที่ต่างกันจะส่งผลต่อยอดจัดไฟแนนซ์และค่างวดโดยตรง

 

อัตราดอกเบี้ยมีผลอย่างมากต่อจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายในระยะยาว วิธีคิดดอกเบี้ยรถเริ่มจากการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่ทางสถาบันการเงินเสนอให้ ซึ่งมักจะอยู่ที่ประมาณ 3-7% ต่อปี ขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้กู้และนโยบายของแต่ละสถาบัน

เงินดาวน์ 

คือเงินที่คุณต้องจ่ายล่วงหน้าก่อนทำสัญญาผ่อนชำระ โดยทั่วไปอยู่ที่ 10-25% ของราคารถ ยิ่งดาวน์มาก ยอดจัดไฟแนนซ์ก็จะน้อยลง ส่งผลให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลงตามไปด้วย การพิจารณาว่าควรดาวน์เท่าไรจึงเป็นการตัดสินใจสำคัญที่มีผลต่อภาระทางการเงินในระยะยาว

ยอดจัดไฟแนนซ์ 

คือส่วนต่างระหว่างราคารถกับเงินดาวน์ที่คุณจ่ายไป ยอดนี้คือจำนวนเงินที่คุณต้องไปขอสินเชื่อรถมือสองหรือสินเชื่อรถใหม่จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะเป็นฐานในการคำนวณดอกเบี้ยและค่างวดที่คุณต้องชำระในแต่ละเดือน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 

ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% สำหรับรถใหม่ป้ายแดงจะมีการคิดรวมในราคาสุทธิแล้ว แต่สำหรับรถมือสอง หรือรถมือหนึ่งบางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ต้องคำนวณ VAT แยก เช่น อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม หรือบริการพิเศษ ซึ่งคุณควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายใดบ้างที่ต้องบวก VAT เพิ่ม

จำนวนปีที่ผ่อน

ระยะเวลาในการผ่อนชำระมีผลโดยตรงต่อจำนวนค่างวดและดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่าย โดยทั่วไปอยู่ที่ 4-7 ปี ยิ่งผ่อนนานค่างวดจะยิ่งต่ำ แต่ดอกเบี้ยรวมจะสูงขึ้น การเลือกระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสมควรคำนึงถึงความสามารถในการชำระและเป้าหมายทางการเงินของคุณ

วิธีคิดดอกเบี้ยรถยนต์

H2 วิธีคิดดอกเบี้ยรถยนต์

วิธีคิดดอกเบี้ยรถเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อรถ การคำนวณดอกเบี้ยที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เป็นภาระเกินความจำเป็น โดยวิธีคิดดอกเบี้ยรถเบื้องต้น gurumalist ขอยกตัวอย่าง ดังนี้ 

  • รถยนต์รุ่น A มีราคา 600,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี
  • เงินดาวน์ 100,000 บาท
  • ผ่อน 60 งวด หรือ 5 ปี

H3 วิธีคิดดอกเบี้ยรถต่อปี

  • ยอดจัด = 600,000 – 100,000 = 500,000 บาท
  • ดอกเบี้ย = 3%
  • ดอกเบี้ยต่อปีจะเท่ากับ 500,000 x 3% = 15,000 บาท

H3 วิธีคิดดอกเบี้ยรถตลอดอายุสัญญา

ถัดมาเมื่อรู้ยอดดอกเบี้ยรายเดือนแล้ว ให้นำมาคิดยอดรวมดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา

  • ดอกเบี้ยต่อปี = 15,000 บาท
  • จำนวนปีที่ผ่อน = 5 ปี
  • ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาจะเท่ากับ 15,000 x 5 = 75,000 บาท

H3 วิธีคิดยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย

สุดท้ายให้นำดอกเบี้ยตลอดสัญญามารวมกับยอดจัดสินเชื่อ ก็จะเห็นยอดที่ต้องชำระที่แท้จริง 

  • ยอดจัด = 500,000
  • ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ยจะเท่ากับ 500,000  + 75,000 = 575,000 บาท

H2 วิธีคิดค่างวดรถแต่ละเดือน

หลังจากที่เราได้รู้ตัวเลขดอกเบี้ยตลอดสัญญาแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการคำนวณหาค่างวดรถแต่ละเดือน ซึ่งจะต้องรวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT เข้าไปในสัญญา 7% มีวิธีคิดดังนี้

H3 ยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

  • ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย 575,000 บาท
  • ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT จะเท่ากับ 575,000 x 7% = 40,250 บาท

H4 ยอดสินเชื่อหลังภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

  • 575,000 + 40,250 = 615,250 บาท

H3 คำนวณค่างวดผ่อนรถแต่ละเดือน

  • ยอดสินเชื่อทั้งหมด 615,250 บาท
  • จำนวนงวดผ่อนชำระ 60 เดือน
  • ยอดผ่อนแต่ละเดือนจะเท่ากับ 615,250 ÷ 60 = 10,255 บาทต่อเดือน 

นี่เป็นเพียงการคำนวณอย่างง่าย ในความเป็นจริง สถาบันการเงินอาจใช้วิธีคิดดอกเบี้ยรถที่แตกต่างไป ทำให้ตัวเลขอาจคลาดเคลื่อนได้ ควรศึกษารายละเอียดการคำนวณจากสถาบันการเงินโดยตรง

H2 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดอกเบี้ยรถยนต์

H3 เราสามารถโปะดอกเบี้ยรถยนต์ได้ไหม

สามารถทำได้ การโปะเงินหรือชำระเงินต้นเพิ่มเติมเป็นวิธีที่ดีในการลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว เมื่อคุณโปะเงินต้น ยอดหนี้คงเหลือจะลดลง ทำให้ดอกเบี้ยในงวดถัดไปลดลงตามไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขกับสถาบันการเงินก่อน เพราะบางแห่งอาจมีค่าธรรมเนียมการชำระเงินก่อนกำหนด (Prepayment Penalty) หรือกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการโปะแต่ละครั้ง นอกจากนี้ วิธีคิดดอกเบี้ยรถแบบลดต้นลดดอกจะเอื้อประโยชน์ให้กับการโปะเงินในช่วงต้นของสัญญามากกว่าช่วงปลาย

H3 อัตราดอกเบี้ยรถยนต์อยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์

อัตราดอกเบี้ยรถยนต์ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารและสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีค่าเฉลี่ยกว้างๆ อยู่ที่ 3-7% ต่อปี โดยปัจจัยที่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยรถยนต์ประกอบด้วย ประวัติเครดิตของผู้กู้ ระยะเวลาผ่อนชำระ เปอร์เซ็นต์เงินดาวน์ และสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น นอกจากนี้สินเชื่อรถมือสองมักจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อรถใหม่ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า คุณควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายๆ สถาบันการเงินเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุด

H3 ดอกเบี้ยรถป้ายแดงและรถมือสองต่างกันไหม

โดยทั่วไปดอกเบี้ยรถมือสองจะสูงกว่ารถป้ายแดงประมาณ 1-3% เนื่องจากความเสี่ยงที่สูงกว่า สถาบันการเงินมองว่า รถมือสองสำหรับการเป็นหลักประกันนั้น อาจมีความเสี่ยงมากกว่ารถใหม่ในแง่ของสภาพรถและมูลค่าในอนาคต นอกจากนี้ ระยะเวลาผ่อนชำระของรถมือสองมักสั้นกว่า โดยอยู่ที่ประมาณ 4-5 ปี เทียบกับรถใหม่ที่สามารถผ่อนได้นานถึง 7 ปี อายุของรถมือสองยังมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยด้วย โดยรถที่อายุมากกว่าจะมีดอกเบี้ยสูงกว่า ดังนั้นวิธีคิดดอกเบี้ยรถจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ประกอบกัน

สรุปบทความวิธีคิดดอกเบี้ยรถ

H2 สรุปบทความ

วิธีคิดดอกเบี้ยรถเป็นความรู้พื้นฐานสำคัญที่ผู้ซื้อควรเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อรถทั้งป้ายแดงและมือสอง การคำนวณที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเลือกดาวน์กี่เปอร์เซ็นต์ ระยะเวลาผ่อนนานแค่ไหน หรือควรโปะเงินเมื่อไร ล้วนต้องพิจารณาให้รอบคอบ

หากคุณกำลังมองหารถคันใหม่หรือกำลังสนใจ gurumalist เว็บขายรถมือสองระดับชั้นนำ พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่ดีที่สุด ด้วยประสบการณ์การซื้อขายรถมือสองมายาวนาน เรามีรถยนต์มือสองคุณภาพดีให้เลือกหลากหลาย แอดไลน์ @gurumalist วันนี้ เพื่อรับข้อเสนอพิเศษและคำแนะนำดีๆ ได้เลย